Sunday, May 10, 2009

มหานครระดับโลก กับ สุวรรณภูมิฝันแล้ง ๆ ของไทย

"หนองงูเห่า" หรือสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ ของประเทศไทย ถ้าจะบอกว่าเป็นตำนานก็คงจะได้เพราะตั้งแต่ช่วงที่ผมเรียนในระดับปริญญาตรีเกือบ 30 ปีมาแล้ว เรื่องราวสนามบินแห่งใหม่ ที่จะแทนที่สนามบินดอนเมือง มีการพูดกันมาแล้วพอๆ กับการขุดคอคอดกะ แล้วก็หายเงียบไปทุกทีถ้าคิดจะทำจริงๆ ไม่รู้ว่าด้วยปัจจัยอะไร


แต่พอมาถึงวันนี้ ฝันของประเทศไทยในเรื่องสนามบินนานาชาติแห่งใหม่แทบจะเป็นฝันสลายเพราะยังไม่เคยเจออะไรที่แย่ ๆ เท่ากับสุวรรณภูมิ ส่วนจะแข่งขันได้สำเร็จในภูมิภาคนี้หรือไม่ต้องดูฝีมือรัฐบาลชุดต่อ ๆ ล่ะครับ!

ประการแรก เราคนไทยเชียร์สุวรรณภูมิ (ในใจแต่ไปใช้แล้วถอดใจ)

ผู้เขียนเชื่อว่าในหัวใจคนไทยที่มีทั้งวิญญาณและตัวตนรักชาติไทย คงอยากเห็นประเทศไทยแข่งขันในเวทีโลกได้ดีกว่าที่ผ่านๆ มาและในอนาคต แต่ความจริงที่เปลี่ยนแปลงของโลกแห่งการแข่งขันเราก็ต้องเข้าใจและยอมรับด้วยเช่นกัน 

ในภูมิภาคเอเชียต้องยอมรับว่า สนามบินนานาชาติฮ่องกง มีระดับและความทันสมัยในระดับโลก รวมทั้งสารพัดสิ่งอำนวยความสะดวกและการดึงดูดนักธุรกิจและนักท่องเที่ยว ซึ่งฮ่องกงในปัจจุบันกำลังจะเป็นมหานครที่ทันสมัยระดับโลก มีสินค้าแบรนด์เนมระดับโลก มีสวนสนุกเป็นแห่งที่ 5 ของโลกที่ ดิสนีย์ แลนด์ มาลงทุนสร้าง

เฉพาะแค่การสร้างสนามบินนานาชาติฮ่องกงจนกระทั่งประสบความสำเร็จนั้นมีธีม (Theme) ขายอยู่ 9 ธีม 

เกาหลีใต้ก็มีสนามบินนานาชาติใหม่ที่อิชอน หรือสิงคโปร์ที่ชางฮีที่ปรับปรุงอย่างมโหฬาร คาดว่าน่าจะเสร็จแล้วกระมังเพราะต้องการแข่งกับไทยเรา

แสดงให้เห็นว่าในเชิงกลยุทธระดับโลก (Global Strategy) แล้ว "สุวรรณภูมิ" คงจะต้องทำหรือต้องมีอะไรที่จะทำให้ชนะได้ทันที

ประการต่อมา มหานครระดับโลก (A Global City)

สังคมไทยจะมีจุดเด่นที่เริ่มชัดเจนคือ การเป็นสังคมแห่งการล่าฝัน (AF Society) เพราะ "การล่าฝัน" กลับกลายเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ แต่ไม่แน่ใจว่าเป็น "แก่นแท้หรือดีเอ็นเอของสังคมไทย" ที่จะทำให้แข่งขันในเวทีโลกได้หรือไม่

เมื่อมีการออกข่าวว่าประเทศไทยเราจะมีจังหวัดที่ 77 คือ มหานครสุวรรณภูมิ คนไทยที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์และแผ่นดินไทย จะคิดอะไรเกี่ยวกับประเด็นนี้หรือเป็นเพียงฝันใหม่ของไทย (คนไทยทุกคน) และก็ท่าจะแท้งเสียแล้ววันนี้ บรรดานายทุนที่กว้านซื้อที่ไว้คงเร่งหาทางระบายออก เร็ว ๆ นี้ เราๆ ท่าน ๆ อาจจะได้เก็บของถูกกันบ้าง

อย่างนั้นก่อนที่จะคิดไปอย่างไม่มีหลักการหรือถูกมอมเมาทางความเชื่อและศรัทธาในลัทธิที่สวนกระแสสันติสุขของโลก หรือการตลาดแห่งอารมณ์ (Emotional Marketing) ลองมาพิจารณาเกี่ยวกับแนวคิดเชิงกลยุทธของมหานครระดับโลกดูกันก่อนดีกว่า

มหานครระดับโลกคืออะไร 

คำว่า มหานครระดับโลก (A Global City) จะต้องมีความหมายเหมือนๆ ลอนดอน นิวยอร์ก ซึ่งจะต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้

(1) มหานครระดับโลกจะต้องมีลักษณะของการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจในส่วนต่างๆ ของโลกอย่างแนบแน่น อาทิ เป็นศูนย์กลางของสินค้าและบริการที่จะกลายเป็นฮับ (Hub) 

หรือมหานครระดับโลกจะได้รับธุรกิจจากทุกส่วนของโลกมายังมหานครนี้ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์กลางการเงิน ศูนย์กลางธุรกิจ ศูนย์กลางการค้า ขนส่ง โลจิสติกส์และกิจกรรมสนับสนุนอื่นๆ ที่ให้บริการต่อตลาดในขนาดทวีปใหญ่ๆ ซึ่งไม่ใช่เพียงตลาดในประเทศหรือแค่ภูมิภาคอย่างที่เข้าใจกัน

(2)มหานครระดับโลก ควรจะเป็นศูนย์กลางของการเป็นหัวใจของกลุ่มประชากร ในมหานครหลักๆ เช่น ลอนดอนเป็นผู้กำหนด อิงแลนด์ทางตอนใต้ และนิวยอร์กมีอิทธิพลเหนือ 5 เขตเลือกตั้งถึงคอนเนคติกัท

(3) มหานครดังกล่าวนี้จะเป็นแค่เพียงเมืองใหญ่เพราะมีความร่ำรวยทางเศรษฐกิจ ยังไม่เพียงพอแต่จะต้องสามารถกำหนดขอบเขตอิทธิพลอื่นๆ เช่น แฟชั่น วัฒนธรรมหรือการบันเทิง ดังเช่น กรณีของลอนดอนและนิวยอร์ก

โตเกียวเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งเป็นมหานครที่ใหญ่และมีความสำคัญในระดับโลก แต่ไม่ใช่มหานครระดับโลก โตเกียวยังมีความไม่ชัดเจนระหว่างการเป็นมหานครยิ่งใหญ่ระดับโลกกับการเป็นมหานครทั่วๆ ไป เหมือนกับลาสเวกัส ที่เป็นมหานครที่ยิ่งใหญ่ด้านการพนันแต่ไม่ใช่มหานครระดับโลก หรือปารีสเป็นศูนย์กลางแฟชั่นระดับโลกแต่ไม่ใช่มหานครระดับโลก 

ปัจจุบันในเอเชีย ไม่มี "มหานครระดับโลก" (อ้างจาก (Bhaskaran, M., 2005: The Fourth Singapore Economic Roundtable)

ประการสุดท้าย ความท้าทายสู่การเป็นมหานครระดับโลก 

เมื่อทุกท่านได้เข้าใจในความหมายของการเป็นมหานครระดับโลก ตามที่ได้ยกตัวอย่างมานั้น จะเห็นได้ว่าการเป็นมหานครระดับโลกไม่ใช่อยู่ๆ จะเป็นขึ้นมาได้เพียงเพราะชื่อเรียก หรือมีสนามบินนานาชาติแล้วจะเกิดความเป็นมหานครระดับโลก

ผู้เขียนเห็นว่ารัฐบาลใดก็ตามมีความคิดที่อยากจะปั้นมหานครระดับโลกขึ้นมา แต่เงื่อนไขแห่งความสำเร็จทางกลยุทธยังไม่มีความชัดเจนพอเพราะ

1.เขตบริเวณของสุวรรณภูมิไม่มีอะไรที่บ่งบอกถึงศักยภาพที่จะเข้าไป กำหนดบทบาทของเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของประชาคมโลกได้ในขณะนี้ หรือหากในอนาคตก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องทุ่มงบประมาณอีกกี่แสนล้านบาท ที่จะไปเวนคืนที่ซึ่งมีทุนรายใหญ่จับจองพร้อมที่จะขายหรือลงทุนทำเองไม่กี่คน

2.เมืองที่จะเป็นมหานครระดับโลกที่น่าจะเข้าชิงได้ในเอเชีย ผู้เขียนเห็นว่ามีอยู่ 3 เมืองคือ ฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ และสิงคโปร์ ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 3 เมืองนี้ได้มีการวางกลยุทธที่จะท้าชิงความเป็นมหานครระดับโลกของเอเชียอยู่แล้ว 

ถ้าประเทศไทยอยากมีเมืองใดที่จะสร้างให้เป็นมหานครระดับโลก คงต้อง ทำการบ้านมากกว่านี้เพราะ 3 เมืองข้างต้นก้าวไปสู่ความเป็นหรือเกือบๆ เป็นมหานครแล้ว แต่ยังไม่ถึงการเป็นมหานครระดับโลก เราต้องเร็วกว่านี้อีกครับขอเอาใจช่วย ถ้าประเทศไทยอยากมีจริงๆ (เมืองอื่นนะไม่ใช่สุวรรณภูมิ)

ดร.ดนัย เทียนพุฒ
Dr.Danai Thieanphut
DNT Consultants

No comments: